ฟิทช์ เรทติ้งส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีและอิตาลีจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมในกลุ่มยูโรโซนจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
นายเจมส์ แมคคอร์แมค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟิทช์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า "เศรษฐกิจเยอรมนีและอิตาลีไม่เพียงแต่จะเผชิญกับการหดตัว แต่อาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยด้วย ขณะที่เศรษฐกิจของอังกฤษนั้นอาจจะเผชิญกับภาวะถดถอยแล้ว"
"นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังมีความเสี่ยงที่จะถดถอย "เล็กน้อย" ไปจนถึงสิ้นปี 2566" เขากล่าว
นายแมคคอร์แมคกล่าวว่า รัฐบาลทั่วโลกกำลังดิ้นรนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ในขณะที่การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั้น กำลังบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกต่างก็พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และมีแนวโน้มว่าทิศทางเช่นนี้จะยังคงดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ นายแมคคอร์แมคคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยจนถึงระดับ 5.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกรอบปัจจุบันที่ระดับ 4.5-4.75%
นอกจากนี้ นายแมคคอร์แมคกล่าวว่า ประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในขณะนี้คือปากีสถาน เนื่องจากเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเหนือระดับ 30% นอกจากนี้ ปากีสถานยังต้องดิ้นรนเพื่อให้บรรลุเงื่อนไขในการขอรับเงินกู้ 6.5 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ด้วย