นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ที่กรุงปักกิ่งว่า จีนจะผลักดันการเพิ่มกำลังการผลิตธัญพืชอีก 50 ล้านตันภายใต้มาตรการส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหาร โดยมีเป้าหมายที่จะตอบสนองความต้องการที่ปรับตัวสูงขึ้น
"เราควรจะรักษาพื้นที่เพาะปลูกธัญพืชทั้งหมดเอาไว้ให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ รวมทั้งส่งเสริมการผลิตพืชผลประเภทเมล็ดน้ำมัน และสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตธัญพืช ซึ่งมาตรการเหล่านี้ครอบคลุมถึงการพัฒนาพื้นที่การเกษตรคุณภาพสูง สนับสนุนภาคเทคโนโลยีด้านการเกษตร และพึ่งพานวัตกรรมมากขึ้นในอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์พืช" นายหลี่กล่าวในรายงานกรอบการดำเนินงานของรัฐบาลที่ยื่นต่อ NPC
ทางด้านคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ระบุในรายงานที่ยื่นต่อ NPC ว่า การรักษาผลผลิตธัญพืชไว้ที่ระดับสูงกว่า 650 ล้านตันนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นว่า อุปทานธัญพืชจะมีเพียงพอและเพื่อรักษาราคาให้มีเสถียรภาพ
"เรากำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในการสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการผลิตธัญพืช เราพบว่ามีความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรบางชนิด นอกจากนี้เราพบว่า ราคาธัญพืชในตลาดต่างประเทศยังคงสูงมาก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดจีน" NDRC ระบุ
นอกจากนี้ รายงานของ NDRC ยังระบุด้วยว่า จีนจะสร้างคลังเก็บธัญพืชและสาธารณูปโภคด้านโลจิสติกส์มากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นว่าจีนมีการวางแผนที่ดีสำหรับการขายธัญพืชในสต็อก นอกจากนี้ จีนจะผลักดันความคืบหน้าในการสร้างศูนย์เมล็ดถั่วเหลืองทั่วประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีนได้หันมามุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงด้านอาหารนับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่ออุปทานสินค้าเกษตรทั่วโลก นอกจากนี้ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังส่งผลให้มีการใช้มาตรการควบคุมการซื้อขายปุ๋ยซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของภาคการเกษตร