ซิลเวอร์เกต แคปิตอล (Silvergate Capital) ผู้ปล่อยสินเชื่อรายสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีเปิดเผยเมื่อวันพุธ (8 มี.ค.) ว่า บริษัทจะยุติการดำเนินงานและขายสินทรัพย์ของธนาคารซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank) เพื่อชำระหนี้ ซึ่งฉุดให้ราคาหุ้นซิลเวอร์เกต แคปิตอล ดิ่งลงกว่า 43% แล้วในการซื้อขายหลังตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดทำการ
ทั้งนี้ ซิลเวอร์เกต แบงก์ถือเป็น 1 ใน 2 ธนาคารหลักสำหรับบริษัทคริปโทฯ ร่วมกับซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ซึ่งอยู่ในนิวยอร์ก โดยซิลเวอร์เกต แบงก์มีสินทรัพย์ประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับซิกเนเจอร์ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 1.14 แสนล้านดอลลาร์ โดยซิลเวอร์เกต แบงก์ได้รับผลกระทบจากวิกฤตล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่
"ซิลเวอร์เกตเชื่อว่าการระงับการดำเนินงาน และทำการชำระหนี้ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุด เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ในอุตสาหกรรมคริปโทฯ และการกำกับดูแลกฎระเบียบในช่วงนี้" ซิลเวอร์เกตระบุในแถลงการณ์
ซิลเวอร์เกตเปิดเผยในแผนเลิกกิจการธนาคารและการชำระหนี้ว่า เงินฝากทั้งหมดจะถูกชำระคืนแบบเต็มจำนวนให้กับลูกค้าของธนาคาร
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การประกาศเรื่องการชำระหนี้ครั้งนี้มีขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ซิลเวอร์เกตประกาศระงับเครือข่ายการชำระเงินคริปโทฯ (Silvergate Exchange Network - SEN) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริการหลักของทางบริษัท
ภายใต้แผนปิดกิจการและชำระหนี้ดังกล่าวนั้น ซิลเวอร์เกตประกาศว่าจะให้บริการที่เกี่ยวข้องกับเงินฝากทั้งหมดต่อไป ในขณะที่บริษัททยอยยุติการดำเนินงาน โดยหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะแจ้งให้ลูกค้าทราบในภายหลัง