บริษัท U POWER ได้เปิดตัวโครงพื้นรถแบบเรียบชนิดไฟฟ้าของจีน ซึ่งช่วยให้ต้นทุนในการปรับแต่งรถไฟฟ้า (EV) อัจฉริยะต่ำลง พร้อมประกาศส่งมอบรถ UP VAN ให้แก่ลูกค้าที่ได้สั่งซื้อภายในปลายปีนี้ ล่าสุด ร่วมมือกับfblife.comชุมชนออนไลน์ของผู้ชื่นชอบรถออฟโร้ด เพื่อผลิตรถวิบากพลังงานไฟฟ้า
พอล ลี ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ U POWER กล่าวว่า จีนมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครอบคลุมและมีพลวัตมากที่สุดในโลก ซึ่งมอบความได้เปรียบด้านต้นทุนและความยืดหยุ่นที่ดีกว่าสำหรับโครงพื้นรถแบบเรียบและยานพาหนะ การประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์จะผลักดันให้เราส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม เราจะตั้งหลักอย่างมั่นคงในจีนและจะมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดโลกต่อไป
รถ UP VAN เป็นรถที่สร้างบน UP Super Board และได้ทดสอบในช่วงฤดูหนาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถบรรทุกและมีสมรรถนะสูงกว่ารถในประเภทเดียวกันถึง 15% น้ำหนักรถเปล่าของรถรุ่นนี้ยังลดลงอย่างมากอีกด้วย
UP Super Board พัฒนาจาก UP CCCA (สถาปัตยกรรมการสื่อสาร, การประมวลผล และการควบคุม) และ UP VMC (การควบคุมการเคลื่อนที่ของยานยนต์) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่บูรณาการทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับรถ EV อัจฉริยะ
โดย UP CCCAเป็นระบบอัจฉริยะในยานยนต์ ประกอบด้วย UP Hub และ UP HPVC (คอมพิวเตอร์ยานยนต์สมรรถนะสูง) พร้อมมอบขีดความสามารถ เช่น การส่งข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ การประมวลผลความเร็วสูง และการควบคุมการเคลื่อนที่สำหรับยานยนต์ทั้งคัน โดย UP Hub แพลตฟอร์มจำลองต้นแบบชนิดเกตเวย์แบบแบ่งโซน มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซการสื่อสารจำนวนมากซึ่งครอบคลุมออปชันภายในยานยนต์ และรองรับบัส PCle แบนด์วิดท์สูงเกรดยานยนต์ UP Hub สร้างเครือข่ายการสื่อสารแบบวงแหวนเพื่อให้เกิดการส่งข้อมูลที่รวดเร็วจากกล้องความละเอียด 8เมกะพิกเซล 8 ตัวพร้อมกัน พร้อมด้วยระบบสำรอง
ขณะที่ UP HPVC เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ภายในยานยนต์แบบเปิด ซึ่งมาพร้อมกับพลังการประมวลผลที่ยืดหยุ่นและพัฒนาขึ้นภายใต้การทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างเอ็นวิเดีย (NVIDIA) และเรนีซาส (Renesas) ทั้ง UP Hub และ UP HPVCสามารถเสียบปลั๊กและต่อเรียงกันได้เพื่อรองรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับสูงของรถรุ่นต่าง ๆ
ส่วน UP VMC เป็นเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ พร้อมด้วยระบบเบรกไฟฟ้า ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า และระบบช่วงล่างไฟฟ้า ซึ่งเอื้อให้เกิดการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับการเคลื่อนที่ของโครงพื้นรถ ซึ่งหมายถึงการกำหนดค่า การพัฒนา และการประมวลผลอย่างมีเอกภาพ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นและประหยัดต้นทุนได้สำหรับการพัฒนาการควบคุมการเคลื่อนที่ของยานยนต์