ราคาหุ้นของธนาคารในภูมิภาคเอเชียร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากหุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อคืนวานนี้ (9 มี.ค.) อันเนื่องมาจากรายงานข่าวที่ว่า ธนาคารเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) ซึ่งเป็นธนาคารสหรัฐที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและมุ่งเน้นกลุ่มสตาร์ทอัป เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน
ดัชนี MSCI Asia Pacific Financials Index ร่วงลง 1.6% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. โดยหุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารของญี่ปุ่นร่วงลง 3.3% ขณะที่หุ้นคอมมอนเวลธ์ ออฟ ออสเตรเลีย และหุ้นธนาคารเคบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ปของเกาหลีใต้ ต่างก็ร่วงลง 2.7%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาหุ้นของธนาคารในเอเชียร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวธนาคารเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประกาศขายสินทรัพย์และขายหุ้นมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงงบดุลบัญชีของธนาคาร เนื่องจากยอดเงินฝากจากบรรดาสตาร์ทอัปปรับตัวลงอย่างมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปั่นป่วนอย่างหนักเมื่อคืนวานนี้ (9 มี.ค.) และได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงถ้วนหน้า
ทั้งนี้ เอสวีบีปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น และรับฝากเงินของบริษัทเทคโนโลยีรวมทั้งสตาร์ทอัปเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐในปี 2565
ทางด้านเอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอสวีบีลงสู่ระดับ BBB- จากระดับ BBB โดยระดับ BBB- นั้นสูงกว่าระดับขยะเพียง 1 ขั้นเท่านั้น ขณะที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอสวีบีลงสู่ระดับ Baa1 จากระดับ A3 โดยระบุถึงภาวะถดถอยด้านเงินทุน สภาพคล่อง และความสามารถในการทำกำไรของเอสวีบี