ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ โดยพิจารณาถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังจากการประชุมดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารของสหรัฐ อันเนื่องมาจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี
ก่อนหน้านี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.
ขณะเดียวกันโกลด์แมน แซคส์ยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค., เดือนมิ.ย. และเดือนก.ค. พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ของเฟดจะอยู่ที่ 5.25%-5.5%
กระทรวงปกป้องการเงินและนวัตกรรมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศปิดกิจการของ SVB ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับมอบหมายให้บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เป็นผู้ดูแลเงินฝากของ SVB
ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้ที่ธนาคาร SVB และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ในรัฐนิวยอร์กซึ่งถูกสั่งปิดไปแล้วนั้น สามารถเข้าถึงเงินฝากของตนได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มี.ค.เป็นต้นไป
ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่า ฟดจะจัดตั้งโครงการ "Bank Term Funding Program" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB
โครงการ "Bank Term Funding Program" ของเฟดนั้น จะเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์, สถาบันรับฝากเงิน, เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ โดยสถาบันการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินกู้จากโครงการดังกล่าวนั้น จะถูกขอให้ยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)