คันทรี การ์เดน โฮลดิ้งส์ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีนเมื่อวัดจากยอดขายเปิดเผยในวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า บริษัทคาดการณ์ว่าจะมียอดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 ท่ามกลางวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา แม้ผลกำไรหลัก ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษ (nonrecurring items) ยังคงเป็นบวก
บริษัทระบุว่า การขาดทุนในครั้งนี้ น่าจะมีสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง การเพิ่มการตั้งสำรองสำหรับความเสียหายของโครงการอสังหาริมทรัพย์ และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้
บริษัทเสริมว่า "ฝ่ายบริหารมองว่า ปัจจัยข้างต้นซึ่งส่งผลต่อกำไรโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินสด" พร้อมเสริมว่า อัตราหนี้สินสุทธิของบริษัทอยู่ในระดับต่ำมาอย่างยาวนานและบริษัทยังคงรักษาระดับความน่าเชื่อถือไว้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ โลแกน กรุ๊ป บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกรายยังออกมาระบุด้วยว่า บริษัทคาดการณ์ว่าจะมียอดขาดทุนสุทธิที่ 7-9 พันล้านหยวนในปี 2565 จากปัญหาการดำเนินโครงการที่ล่าช้า และรายรับที่หดหายไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ด้านซูแนค เซอร์วิส บริษัทผู้จัดการด้านอสังหาริมทรัพย์และเป็นบริษัทในเครือของซูแนค ไชน่า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า บริษัทคาดว่าจะมียอดขาดทุนสุทธิสูงถึง 500 ล้านหยวน
ขณะเดียวกัน หุ้นของคันทรี การ์เดน โฮลดิ้งส์ร่วงหนักถึง 5.5% ในการซื้อขายช่วงเช้า ขณะที่หุ้นของโลแกน ลดลงมา 4.2% และหุ้นของซูแนค เซอร์วิสลดลง 3.7%