สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นจีนแทบไม่ได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากการล่มสลายอย่างฉับพลันของธนาคารสหรัฐ
รายงานระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 ไม่ส่งผลกระทบมากนักต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีน ซึ่งแทบจะไม่ขยับ ขณะที่ ส่วนต่างของผลตอบแทนระหว่างหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนและพันธบัตรรัฐบาลในจีน (Credit Spread) ทรงตัวตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (10 มี.ค.)
ส่วนหุ้นจีนปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ (13 มี.ค.) โดยขานรับสัญญาณที่ว่าโยบายการเงินของจีนจะมีเสถียรภาพเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ ขณะที่ วันนี้ (14 มี.ค.) หุ้นจีนทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นในตลาดอื่น ๆ ท่ามกลางภาวะเทขายหุ้นแบบเป็นวงกว้าง
นางยูจีเนีย ฟาบอน วิกตอรีโน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์เอเชียของสแกนดิเนวิสกา เอนสกิลดา แบงค์เคน เอบี ระบุว่า สกุลเงินหยวนมีแนวโน้มที่จะได้รับการปกป้องจากความวุ่นวายของตลาด ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในระบบธนาคารของสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัว โดยเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจากภาวะปั่นป่วนในสหรัฐมีแนวโน้มจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น
ทั้งนี้ นางวิกตอรีโนระบุว่า "การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB)" พร้อมเสริมว่า "ธนาคารกลางจีน (PBOC) ดำเนินการได้ดีในการบังคับให้ธนาคารขนาดเล็กจัดการความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นจุดอ่อนในสหรัฐ"