จีนเปิดเผยยอดค้าปลีกสำหรับ 2 เดือนแรกของปีในวันนี้ (15 มี.ค.) ขณะที่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงต่อเนื่อง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.?ก.พ. ปรับตัวขึ้น 3.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกสินค้าเกือบทุกหมวดปรับตัวขึ้น แต่ยอดค้าปลีกสินค้าที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์และเครื่องใช้ภายในครัวเรือนปรับตัวลง
ส่วนยอดขายสินค้าทางออนไลน์ปรับตัวขึ้น 5.3% สำหรับเดือนม.ค.?ก.พ. เมื่อเทียบกับปี 2565
การผลิตภาคอุตสาหกรรมสำหรับเดือนม.ค.?ก.พ. ปรับตัวขึ้น 2.4% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 2.6%
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนม.ค.?ก.พ. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเติบโต 4.4%
แต่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 5.7% ในเดือนม.ค.?ก.พ. เมื่อเทียบกับปี 2565 หลังการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง 10% สำหรับตลอดปีที่แล้ว
การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิตปรับตัวขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
ด้านอัตราการว่างงานตามเมืองต่าง ๆ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5.6% ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์จากเดือนม.ค. ส่วนอัตราว่างงานสำหรับคนหนุ่มสาวอายุ 16 ? 24 ปี ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องที่ 18.1%
ภาคการท่องเที่ยวและการรับประทานอาหารในร้านอาหารฟื้นตัวขึ้น แต่การใช้จ่ายโดยรวมของผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ ขณะที่ผลสำรวจภาคธุรกิจบ่งชี้ถึงการพุ่งขึ้นของกิจกรรมในภาคการผลิต
"ภาวะแวดล้อมในต่างประเทศมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อุปสงค์ที่อ่อนแอยังคงถือเป็นปัจจัยสำคัญ และรากฐานสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งพอ" NBS ระบุ
ทั้งนี้ NBS เรียกร้องให้ภาครัฐกระตุ้นความเชื่อมั่นในตลาด เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจเชิงปริมาณที่เหมาะสม