สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในวันนี้ (15 มี.ค.) ว่า อัยการสหรัฐกำลังตรวจสอบธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) เกี่ยวกับการดำเนินงานกับลูกค้าที่เป็นบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี ก่อนที่หน่วยงานกำกับดูแลได้เข้ายึดธนาคารซิกเนเจอร์อย่างกะทันหันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในกรุงวอชิงตันและเมืองแมนฮัตตันกำลังตรวจสอบว่า ธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์นั้น ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่จำเป็นในการตรวจสอบกรณีที่มีความเป็นไปได้ว่าลูกค้าของธนาคารทำการฟอกเงินหรือไม่ เช่น การตรวจสอบลูกค้าที่ขอเปิดบัญชี และตรวจสอบการทำธุรกรรมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การกระทำผิดทางอาญา
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐก็กำลังตรวจสอบธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ด้วยเช่นกัน
โฆษกของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ที่ยังคงปฏิบัติการอยู่นั้น ยังไม่ได้ตอบกลับคำถามเพื่อสอบถามความเห็นในเรื่องนี้ โดยขณะนี้ธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์อยู่ในการควบคุมของบรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp) หรือ FDIC
สำนักงานอัยการในแมนฮัตตันและ SEC ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ
อย่างไรก็ตาม โฆษกของ SEC ซึ่งกำลังดำเนินคดีแพ่งกับธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ได้อ้างถึงถ้อยแถลงของนายแกรี เจนสเลอร์ ประธาน SEC ที่กล่าวเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนธนาคารอื่น ๆ ในสหรัฐและได้ปิดธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์
"เราจะสืบสวนและดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย หากตรวจสอบพบการละเมิดกฎหมายด้านหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง" นายเจนสเลอร์ กล่าว
ทั้งนี้ ทั้งธนาคารและพนักงานของซิกเนเจอร์ แบงก์ยังไม่ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด และการสืบสวนอาจสิ้นสุดลงโดยไม่มีการดำเนินคดี และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเปิดการสอบสวนธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์เมื่อใด และเรื่องนี้จะมีผลกระทบหรือไม่ต่อการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐในการสั่งปิดธนาคารเมื่อวันที่ 12 มี.ค. อย่างไรก็ดี หน่วยงานกำกับดูแลระบุว่า พวกเขาได้สูญเสียความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ หลังจากที่ธนาคารไม่สามารถให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้และอย่างสม่ำเสมอ