ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขานรับข่าวธนาคารรายใหญ่ 11 แห่งในวอลล์สตรีท ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศอัดฉีดเงินรวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ
-- ราคาหุ้นเครดิต สวิส พุ่งขึ้น 19.2% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ หลังได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากธนาคารกลาง โดยเครดิต สวิส ยื่นขอรับเงินกู้จากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จำนวน 5 หมื่นล้านฟรังก์ (5.368 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใต้โครงการจัดหาเงินกู้แบบครอบคลุมและการจัดหาสภาพคล่องในระยะสั้น
-- นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
เอ็ดเวิร์ด ยาร์เดนี ประธานบริษัทวิจัยยาร์เดนี กล่าวว่า การล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) จะทำให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น และจะทำให้บอนด์ยีลด์แตะจุดสูงสุด ซึ่งหากเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย และเงินเฟ้อดีดกลับขึ้นมา เฟดก็สามารถกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในวันข้างหน้า" นายยาร์เดนีกล่าว
-- จับตาสถานการณ์ในเยอรมนี หลังจาก Verdi ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานเยอรมนี ประกาศผละงานประท้วงในวันนี้ (17 มี.ค.) เพื่อเรียกร้องค่าแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งการผละงานดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสนามบิน 4 แห่งของเยอรมนี ได้แก่ Stuttgart, Karlsruhe, Dusseldorf และ Cologne-Bonn ซึ่งเป็นสนามบินที่ใช้ร่วมกันระหว่างเมือง Cologne และ Bonn
นอกจากนี้ การผละงานในครั้งนี้จะกระทบเที่ยวบินจำนวน 169 เที่ยว และผู้โดยสารจำนวน 20,000 คน โดยผู้โดยสารได้รับการแจ้งว่าจะมีการยกเลิกเที่ยวบิน และเที่ยวบินบางส่วนจะประสบความล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายศุลกากรและฝ่ายรักษาความปลอดภัยทำการผละงานประท้วง
ทั้งนี้ Verdi เรียกร้องการขึ้นค่าแรง 10.5% หรือ 500 ยูโรต่อเดือน ตามค่าครองชีพที่พุ่งขึ้น โดยการเจรจาค่าแรงครั้งต่อไประหว่าง Verdi และฝ่ายบริหารจะมีขึ้นในวันที่ 27-29 มี.ค. หลังจากที่การเจรจาหลายครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ข้อยุติแต่อย่างใด
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ สิงคโปร์เตรียมเปิดเผยยอดส่งออกเดือนก.พ. ขณะที่อียูเปิดเผยเงินเฟ้อเดือนก.พ. ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board