นายแดเนียล ไอแวสซิน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของแปซิฟิก อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ โค (Pacific Investment Management Co -PIMCO) บริษัทจัดการด้านการลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐกล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า แม้สัญญาณของความไร้เสถียรภาพในภาคการเงินอาจทำให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับความรุนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลังจากปัญหาที่เกิดขึ้นในธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐและธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse) นั้นได้สร้างความวิตกให้กับนักลงทุน
แต่เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) จึงคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แม้ว่าภาคการธนาคารจะปั่นป่วนก็ตาม
นายไอแวสซินกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "พวกเขากำลังจับตาดูสัญญาณของความไร้เสถียรภาพในภาคการเงินอย่างระมัดระวังมาก...จะต้องมีสถานการณ์ที่พวกเขาจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน แต่ในขณะนี้เราคิดว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%"
นายไอแวสซินคาดว่า ความผันผวนของตลาดที่เกิดจากภาคธนาคารจะยังคงดำเนินต่อไปในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า โดยมีความอ่อนแอเกิดขึ้นในบางส่วน อย่างไรก็ตาม ภาคธนาคารทั่วโลกมีเงินทุนที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2551