เฟดเอ็กซ์ (FedEx) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการจัดส่งพัสดุและสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปีงบประมาณ 2566 แม้ภาวะตลาดยังคงอ่อนแอ โดยระบุถึงความคืบหน้าของแผนการที่จะลดต้นทุน 3.7 พันล้านดอลลาร์จากธุรกิจจัดส่งทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมากกว่า 11% ในการซื้อขายหลังปิดตลาดนิวยอร์ก
ข้อมูลจากบริษัทรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ระบุว่า เฟดเอ็กซ์คาดการณ์กำไรที่ปรับแล้วอยู่ที่ 14.60-15.20 ดอลลาร์ต่อหุ้นสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 13-14 ดอลลาร์ต่อหุ้น และสูงกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 13.56 ดอลลาร์
ทั้งนี้ รายได้ที่ปรับแล้วสำหรับไตรมาส 3 ของปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ.แตะ 865 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.41 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยกำไรต่อหุ้นลดลง 1.18 ดอลลาร์จากปีก่อนหน้า แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 68 เซนต์
ส่วนรายได้ลดลง 6% แตะ 2.22 หมื่นล้านดอลลาร์และต่ำกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เฟดเอ็กซ์ปรับลดต้นทุนการดำเนินงานด้วยการปิดสำนักงาน เลิกจ้าง ลดเที่ยวบิน ระงับการบิน และยกเลิกการส่งมอบสินค้าในวันอาทิตย์ในพื้นที่ห่างไกล
ทั้งนี้ เฟดเอ็กซ์ต้องพยายามปรับสมดุลระหว่างต้นทุนและขีดความสามารถในการให้บริการ เนื่องจากอุปสงค์บริการที่ลดลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ถูกคุกคามจากสงครามในยูเครน การล้มละลายของธนาคาร และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น