นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และหน่วยงานด้านการเงินในต่างประเทศ เพื่อป้องกันผลกระทบจากวิกฤตความเชื่อมั่นต่อธนาคารในชาติตะวันตก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความวุ่นวายของตลาดหลังจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ในสหรัฐ ได้ลามไปถึงเครดิต สวิส จนทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อวิกฤตการเงินโลกอีกครั้ง
จนถึงตอนนี้ ผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดวิกฤตการเงินอีกครั้งนั้นอยู่ในระดับต่ำ
นายซูซูกิกล่าวว่า เขากำลังเฝ้าดูตลาดการเงินทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และคอยติดตามผลกระทบจากปัญหาในภาคการธนาคารในกลุ่มชาติตะวันตกที่มีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
นายซูซูกิระบุว่า "ด้วยความเป็นไปได้ของความเสี่ยงต่างๆ หน่วยงานบริการทางการเงินจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ BOJ และหน่วยงานด้านการเงินของประเทศอื่น พร้อมกับจับตาดูเศรษฐกิจ ตลาดการเงิน และผลกระทบต่อระบบการเงินอย่างรอบคอบ"
รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นมีการแลกเปลี่ยนเงินตราพหุภาคีกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤต เช่น วิกฤตการณ์เงินเอเชียปี 40 อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงการแลกเปลี่ยนเงินตราแบบทวิภาคีกับเกาหลีใต้หมดอายุไปหลายปีแล้ว
ทั้งนี้ นายซูซูกิเสริมว่า "ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาทางการเงิน เช่น การแลกเปลี่ยนเงินตราแบบทวิภาคี"