นางแคริน เคลเลอร์-ซุตเทอร์ รัฐมนตรีคลังสวิตเซอร์แลนด์ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงกรณีธนาคารยูบีเอสเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส โดยกล่าวว่า การที่ยูบีเอสเข้าซื้อกิจการของเครดิต สวิสภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์นั้น ไม่ใช่การอุ้มกิจการ และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้
"เราสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้แล้ว นี่ไม่ใช่การอุ้มกิจการของเครดิต สวิส และการที่ยูบีเอสเข้าเทกโอเวอร์กิจการของเครดิต สวิส ถือเป็นทางออกในเชิงธุรกิจ"
"ธนาคารเครดิต สวิสมีความสำคัญในเชิงระบบ หากธนาคารแห่งนี้ล้มละลายก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งต่อตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์เองและตลาดการเงินทั่วโลก" นางเคลเลอร์-ซุตเทอร์กล่าว
นางเคลเลอร์-ซุตเทอร์ยังกล่าวด้วยว่า เธอได้ติดต่อกับหน่วยงานของรัฐบาลสหราชอาณาจักรและสหรัฐ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ต่างก็ขานรับข่าวยูบีเอสซื้อกิจการเครดิต สวิส เนื่องจากทั่วโลกต่างก็กังวลว่าการล้มละลายของเครดิต สวิสจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินทั่วโลก
ทางด้านนายโธมัส จอร์แดน ประธานธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์กล่าวว่า "การที่ยูบีเอสตัดสินใจเทกโอเวอร์กิจการเครดิต สวิส ถือเป็นทางออกในการสร้างเสถียรภาพการเงินและช่วยปกป้องเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์ในวิกฤตการณ์นี้ เนื่องจากเครดิต สวิส เป็นธนาคารที่มีความสำคัญในเชิงระบบ ทั้งในแง่ของขนาดและการมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก"
ทั้งนี้ ยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการซื้อกิจการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานร่วมกันระหว่างธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์, รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์
ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินกู้ยืมจำนวนสูงถึง 1 แสนล้านฟรังก์ (1.08 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนการเทกโอเวอร์กิจการ ขณะที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้อนุมัติเงินค้ำประกันจำนวนสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงให้กับยูบีเอส