นายฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าววันนี้ (20 มี.ค.) ว่า ระบบการธนาคารของญี่ปุ่นมีเสถียรภาพและเชื่อมั่นว่าญี่ปุ่นจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ และยุโรป
นอกจากนี้ เขายังขานรับความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางแคนาดา, ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ระบบการเงิน ผ่านการปรับธุรกรรมสว็อปไลน์สกุลเงินดอลลาร์ (U.S. dollar Swap Line)
ทั้งนี้ ธนาคารกลางทั้ง 5 ประเทศ เห็นพ้องที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกรรมสว็อปไลน์ในการจัดหาสภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์ ด้วยการเพิ่มความถี่ในการดำเนินการไถ่ถอนข้อตกลงสว็อปอายุ 7 วัน จากเดิมที่มีการไถ่ถอนเป็นรายสัปดาห์ เปลี่ยนเป็นการไถ่ถอนรายวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (20 มี.ค.) ไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.
นายมัตสึโนะ ซึ่งเป็นโฆษกรัฐบาลระดับสูงของญี่ปุ่นด้วยนั้น กล่าวในการแถลงข่าวว่า "ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้ประกาศความร่วมมือเพื่อเสริมสภาพคล่องในทันที หลังจากตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะร่ำส่ำระสายเนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง" พร้อมกับกล่าวเสริมว่า "ระบบการเงินของญี่ปุ่นโดยรวมแล้ว มีเสถียรภาพ และทางการญี่ปุ่นกำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินอย่างระมัดระวัง"
ทางด้านนายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า "รัฐบาลจะยังคงประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบว่า การที่ยูบีเอสเข้าซื้อกิจการเครดิต สวิส จะผลกระทบต่อภาคการเงินของญี่ปุ่นอย่างไร"
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีความมั่นใจว่าระบบการเงินของประเทศจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า ธนาคารในญี่ปุ่นมีเงินทุนกันชน (capital buffers) ที่มากพอในการรองรับความเสียหายที่เกิดจากปัจจัยภายนอก รวมถึงความเสี่ยงจากการล่มสลายของธนาคารในสหรัฐด้วย