รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง รอดพ้นจากมติไม่ไว้วางใจ 2 ฉบับได้แบบเฉียดฉิว จนนำไปสู่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลรอบใหม่ในกรุงปารีส ซึ่งมีผู้ประท้วงถูกจับกุม 101 ราย หลังจากปะทะกับตำรวจ
ทั้งนี้ กลุ่มสมาชิกสภาฝ่ายค้านได้เสนอญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลจำนวน 2 ฉบับ หลังจากที่ปธน.มาครงใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญในการอนุมัติกฎหมายเพิ่มอายุเกษียณเป็น 64 ปีโดยไม่ผ่านการลงคะแนนในรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาฝ่ายค้านไม่สามารถนำพาญัตติไม่ไว้วางใจทั้ง 2 ฉบับไปถึงฝั่งฝันได้ โดยญัตติไม่ไว้วางใจฉบับแรกที่เสนอโดยกลุ่มสมาชิกสภาสายกลางได้เสียงสนับสนุนไป 278 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ 287 คะแนน
หากญัตติฉบับดังกล่าวผ่านการอนุมัติ ปธน.มาครงจะต้องจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือประกาศจัดเลือกตั้งใหม่
ขณะที่ญัตติไม่ไว้วางใจฉบับที่สองที่เสนอโดยพรรคเนชันแนล แรลลี ซึ่งเป็นฝ่ายขวาจัดของนางมารีน เลอเพน ก็ไม่ผ่านการอนุมัติเช่นเดียวกัน
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การที่ญัตติไม่ไว้วางใจทั้ง 2 ฉบับถูกปัดตก ทำให้กฎหมายขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 ปีมีผลบังคับใช้ทันที