ในขณะที่จีนกำลังเริ่มพัฒนาเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งและมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการเมืองโลก การพบกันระหว่างผู้นำสองประเทศในครั้งนี้จึงเป็นที่จับตามองของประชาคมโลกอย่างมาก
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การเยือนครั้งนี้เป็นการเพิ่มความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ ทั้งยังเป็นการเยือนเพื่อเสริมสร้างสันติภาพด้วยพื้นฐานที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียแบบไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
โดยความสำเร็จของจีนในการสานสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านเมื่อไม่นานมานี้ ช่วยเพิ่มความหวังที่ว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในยูเครนได้ โดย หยวน ซา ผู้ช่วยนักวิจัยจากแผนกอเมริกันศึกษา สถาบันวิเทศศึกษาแห่งประเทศจีน เชื่อว่ ความสำเร็จดังกล่าวเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสามารถคาดหวังกับการไกล่เกลี่ยของจีนได้ การมาเยือนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างสันติภาพ แต่ยังสร้างความร่วมมือที่นำไปสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
ซุย หงเจี้ยน ผู้อำนวยการแผนกยุโรปศึกษา สถาบันวิเทศศึกษาแห่งประเทศจีนเคยระบุไว้ว่า รัสเซียคือหุ้นส่วนสำคัญของจีน และความร่วมมือในอนาคตจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ มากขึ้น
ดังนั้น การเยือนรัสเซียของสี จึงถือว่าเป็นการเยือนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในด้านต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) กับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Union)