จับตาทิศทางตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และนางเจเน็ต เยลเลน ได้ออกมาสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนด้วยการกล่าวว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ไม่มีการพิจารณาเรื่องการคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดของภาคธนาคาร
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกันนับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565
-- นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้ชาติสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ทั้ง 123 ประเทศ ทำการจับกุมตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตามหมายจับของ ICC ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม เนื่องจากเนรเทศและย้ายถิ่นฐานประชากรเด็กจากพื้นที่ยึดครองในยูเครนไปยังรัสเซีย
อย่างไรก็ดี ICC ไม่มีกำลังทหารและตำรวจเป็นของตนเอง จึงต้องอาศัยกองกำลังจากชาติสมาชิกในการบังคับใช้คำสั่งของ ICC โดยประเทศต่างๆ สามารถจับกุมตัวปธน.ปูติน และนำตัวไปขึ้นศาลในกรุงเฮก หากเขาเดินทางเข้าสู่ประเทศที่เป็นรัฐภาคีของ ICC
-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งแล้ว หลังการเดินทางเยือนรัสเซียเป็นเวลา 3 วัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย
การเดินทางดังกล่าวเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียเป็นครั้งแรกของปธน.สี นับตั้งแต่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 และเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปธน.สีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 3
-- รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มเมืองซาปอริซเซียทางใต้ของยูเครนอย่างหนักในวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 2 คนในวัย 7 ขวบและ 9 ขวบ
ทั้งนี้ รัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตียูเครน แม้ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เพิ่งหารือแผนสันติภาพในการยุติสงครามยูเครนกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล