นางเจน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ระบบธนาคารของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้การล้มละลายของธนาคารบางแห่งได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญความปั่นป่วนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
"ระบบธนาคารของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก โดยแม้ว่าธนาคารชื่อดังบางแห่งถูกปิดกิจการเมื่อไม่นานมานี้ แต่ดิฉันมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อในระบบธนาคารของสหรัฐ" นางเฟรเซอร์กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน
ขณะเดียวกันนางเฟรเซอร์ยืนยันว่า ซิตี้กรุ๊ปซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐไม่มีความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (FRB) ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ แม้ว่าซิตี้กรุ๊ปเป็น 1 ในธนาคาร 11 แห่งของวอลล์สตรีทที่ให้ความช่วยเหลือ FRB เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีท 11 แห่งประกาศอัดฉีดเงินรวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ FRB โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา, เวลส์ ฟาร์โก, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน ฝากเงินใน FRB รายละ 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ฝากเงินใน FRB รายละ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนธนาคารทรูอิสต์ ไฟแนนเชียล, พีเอ็นซี, ยูเอส แบงคอร์ป, สเตทสตรีท และแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน ฝากเงินใน FRB รายละ 1 พันล้านดอลลาร์
ธนาคารทั้ง 11 แห่งได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยระบุว่า "การที่กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐพร้อมใจกันอัดฉีดเงินรวมกัน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเรามีความเชื่อมั่นใน FRB และธนาคารทุกขนาด และยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธนาคารต่าง ๆ สามารถให้บริการแก่ลูกค้าต่อไป"