นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการจัดสรรงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ว่า กระทรวงการคลังมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เงินฝากธนาคารของชาวอเมริกันจะยังคงปลอดภัยในช่วงเวลาที่ภาคธนาคารสหรัฐเผชิญภาวะปั่นป่วน
"เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้ใช้เครื่องมือที่สำคัญในการรับมือกับวิกฤตการณ์อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์นี้ลุกลามบานปลาย เราจะนำเครื่องมือนี้มาใช้อีกครั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเงินฝากของชาวอเมริกันจะปลอดภัย และแน่นอนว่าเรามีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น" นางเยลเลนกล่าว
ทั้งนี้ นางเยลเลนระบุว่า มาตรการฉุกเฉินที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐได้นำมาใช้เพื่อปกป้องเงินฝากของลูกค้าธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) นั้น จะถูกนำมาใช้อีกครั้งหากจำเป็น พร้อมระบุว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ประมาณการว่าความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์นั้น อาจจะมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์
ในช่วงต้นเดือนมี.ค. ธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ได้ถูกสั่งปิดกิจการ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังการล่มสลายของธนาคาร SVB ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญความปั่นป่วนอย่างรุนแรง และทำให้ระบบธนาคารของสหรัฐประสบกับภาวะวิกฤต จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 มี.ค.) แฟลกสตาร์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารในเครือของนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ บันคอร์ป ได้บรรลุข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ซึ่งประกอบด้วยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ รวมทั้งสาขาธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ทั้ง 40 แห่ง
การแสดงความเห็นล่าสุดของนางเยลเลนช่วยให้นักลงทุนในตลาดคลายความกังวลได้ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดเจอแรงกดดันอย่างหนักจากคำพูดของนางเยลเลนที่ว่า FDIC ไม่มีแผนที่จะพิจารณาเรื่องการคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดของภาคธนาคาร ซึ่งสวนทางกับที่สื่อหลายสำนักตีข่าวว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังศึกษาแนวทางในการทำให้ FDIC สามารถคุ้มครองเงินฝากได้ทั้ง 100% จากปัจจุบันที่ให้การคุ้มครองไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์