นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวสุนทรพจน์ในงานไชนา ดีเวลลอปเมนต์ ฟอรัม ที่กรุงปักกิ่งในวันอาทิตย์ (26 มี.ค.) ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว พร้อมกับเรียกร้องให้ทางการจีนเร่งสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจโดยมุ่งเน้นการกระตุ้นการอุปโภคบริโภค
"การที่เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่สำคัญต่อจีนเองเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย การดีดตัวของเศรษฐกิจจีนจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกในอัตราส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ในปี 2566 เราเชื่อว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีนจะพยุงเศรษฐกิจโลกให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย" นางกอร์เกียวากล่าว
ทั้งนี้ นางกอร์เกียวากล่าวว่า ขณะนี้ IMF คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 5.2% ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับของปี 2565 ถึง 2 เท่า โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะได้แรงหนุนจากการอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัวหลังจากจีนเปิดประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
นางกอร์เกียวายังกล่าวด้วยว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกยังไม่สดใส เนื่องจากความไม่แน่นอนในด้านต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกแตกออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตราย เนื่องจากจะทำให้ประเทศที่ยากจนอยู่แล้วนั้น ยากจนลงอีก พร้อมกับกล่าวว่า แนวโน้มในระยะกลางของเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ