โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจระดับโลกระบุเมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) ว่า เทคโนโลยี Generative AI เช่น ChatGPT จะเข้ามาช่วยทำงานได้ถึง 1 ใน 4 ของงานทั้งหมดในสหรัฐและยูโรโซน
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า เทคโนโลยี Generative AI สามารถช่วยรังสรรค์คอนเทนต์ได้ไม่แตกต่างจากฝีมือมนุษย์ และต่อไปจะช่วยเพิ่มผลผลิตจนในที่สุดจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายปีได้ถึง 7% ในช่วงเวลา 10 ปี
แต่นายโจเซฟ บริกส์และนายเทเวศร์ โกฐนานี ผู้เขียนรายงานของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า หากเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ เทคโนโลยี Generative AI จะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะสร้างความเสี่ยงให้กับพนักงานประจำ 300 ล้านคนในสหรัฐและยูโรโซน ซึ่งกลุ่มทนายความและเจ้าหน้าที่บริหารอยู่ในกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด
รายงานระบุว่า ตำแหน่งงานประมาณ 2 ใน 3 ในสหรัฐและยุโรปจะเผชิญความเสี่ยงจากเทคโนโลยี Generative AI ในระดับต่าง ๆ โดยอิงตามข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบของอาชีพหลายพันอาชีพ
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Generative AI จะเข้ามาช่วยทำงานทดแทนมนุษย์ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของภาระหน้าที่ทั้งหมดของผู้คนส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ยังมีงานทำต่อไป โดยผู้คนบางส่วนอาจมีเวลาไปมุ่งเน้นด้านกิจกรรมที่เพิ่มผลผลิตมากขึ้น
ในสหรัฐ เทคโนโลยี Generative AI จะคิดเป็น 63% ของแรงงานทั้งหมด ส่วนงานที่ต้องใช้แรงกายหรืองานกลางแจ้งอีก 30% จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แม้งานดังกล่าวจะได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยี Generative AI ในรูปแบบอื่น ๆ
แต่ประมาณ 7% ของแรงงานอเมริกันประกอบอาชีพที่สามารถถูกเทคโนโลยี Generative AI ทดแทนได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของภาระหน้าที่ทั้งหมด ทำให้เสี่ยงที่จะตกงาน
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ยุโรปก็จะได้รับผลกระทบในลักษณะที่คล้ายคลึงกับสหรัฐ ส่วนในระดับโลกนั้น โกลด์แมน แซคส์พบว่า งานประมาณ 1 ใน 5 สามารถใช้ Generative AI ทำงานแทนได้ หรือคิดเป็นตำแหน่งพนักงานประจำราว 300 ล้านตำแหน่งในบรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่