ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (28 มี.ค.) ว่า คณะบริหารของเขาได้ใช้อำนาจที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อจัดการกับวิกฤตของภาคธนาคารแล้ว แต่ระบุเสริมว่า การรับมือของทำเนียบขาวกับวิกฤตนี้ยังไม่จบสิ้น
ปธน.ไบเดนแถลงต่อสื่อมวลชนก่อนออกเดินทางจากรัฐนอร์ทแคโรไลนาเพื่อกลับไปยังทำเนียบขาวว่า "เราได้ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำในเชิงบริหารแล้ว ผมรู้สึกมั่นใจว่าสิ่งต่างๆ กำลังคลี่คลาย และดูเหมือนว่าตลาดขานรับ"
เมื่อถูกถามว่าคณะบริหารของเขาได้ใช้ทางเลือกที่สามารถดำเนินการได้เองทั้งหมดหรือไม่ นอกเหนือจากมาตรการที่ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา เพื่อจัดการกับความตึงเครียดของภาคการธนาคาร ปธน.ไบเดนกล่าวว่า "ไม่ มันยังไม่จบ เรากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ผมคิดว่าทีมงานของผมจัดการกับปัญหาได้อย่างดีมากจนถึงตอนนี้ และแทนที่จะมั่นใจมากเกินไป ผมคิดว่าปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปในแบบที่เป็นอยู่ดีกว่า"
ปธน.ไบเดนระบุว่า คณะบริหารของเขากำลังพิจารณาการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ แต่อาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากรัฐสภาแบ่งแยกเป็นสองพรรค
เหตุการณ์ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ล้ม และตามมาด้วยธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ในอีกไม่กี่วันต่อมา ทำให้นักลงทุนในภาคการธนาคารสูญเสียความเชื่อมั่นในวงกว้าง จนทำให้ราคาหุ้นร่วงลงและสร้างความกังวลด้านวิกฤตการเงิน
ทั้งนี้ คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้ออกมาตรการฉุกเฉินหลายชุดอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องผู้ฝากเงินในธนาคารทั้ง 2 แห่งดังกล่าว ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เสริมสภาพคล่องเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือธนาคารต่าง ๆ ในการรับมือกับความต้องการของผู้ฝากเงิน