ในระหว่างการประชุมส่วนตัวเมื่อช่วงค่ำของวันศุกร์ (31 มี.ค) คณะเจ้าหน้าที่จีนกล่าวเตือนเหล่าผู้บริหารธนาคารระดับสูงว่า การปราบปรามอุตสาหกรรมการเงินที่มีมูลค่าถึง 60 ล้านล้านดอลลาร์ยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่ประกาศดำเนินการสอบสวนอดีตนายธนาคารระดับอาวุโสของประเทศ
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน (CBRC) และคณะกรรมการกลางเพื่อการสอบวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCDI) ได้เรียกพบผู้บริหารระดับสูงจากธนาคารของรัฐขนาดใหญ่อย่างน้อย 6 แห่ง เพื่อแจ้งเรื่องการสอบสวนนายหลิว เหลียงเก๋อ อดีตประธานแบงก์ ออฟ ไชน่า (Bank of China Ltd)
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงที่ CCDI ประกาศดำเนินการสอบสวนนายหลิวในแถลงการณ์เพียงประโยคเดียว ซึ่งระบุว่า เขาถูกสงสัยว่าละเมิดวินัยและกฎหมายอย่างร้ายแรง
ในระหว่างการประชุมเมื่อวันศุกร์ CBIRC และ CCDI กล่าวว่า พวกเขาจะปราบปรามการคอร์รัปชันในอุตสาหกรรมการเงินอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น และนายธนาคารควรเรียนรู้บทเรียนจากนายหลิว โดยพนักงานธนาคาร โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ รวมถึงเสริมสร้างวินัยในตนเอง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทางการจีนจะประกาศเตือนนายธนาคารหลังการสอบสวนบุคคลสำคัญ คำประกาศล่าสุดกลับตอกย้ำว่าการรณรงค์ต่อต้านการรับสินบนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังทวีความเข้มข้นขึ้น แม้เคยอ้างว่าประสบความสำเร็จในช่วงเริ่มต้นเมื่อปีที่แล้วก็ตาม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่จีนเรียกพบนายธนาคารแบบเร่งด่วนหลังมีการไต่สวนคดีใหญ่ในภาคธนาคารนั้นไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ แต่คำเตือนครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่บ่งชี้ว่า จีนจะเดินหน้านโยบายปราบโกงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงอย่างต่อเนื่อง แม้เคยออกมาประกาศชัยชนะเบื้องต้นไปในปีที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ผู้บริหารทางการเงินอย่างน้อย 20 รายถูกสอบสวนหรือลงโทษตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. ขณะที่นายเปา ฝาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไชน่า เรเนซองส์ โฮลดิ้งส์ (China Renaissance Holdings) ก็หายตัวไปเมื่อเกือบ2 เดือนก่อน
ทั้งนี้ CBIRC และ CCDI ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อรายงานข่าวดังกล่าว