นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ระบุว่า วิกฤตในภาคธนาคารสหรัฐยังคงมีอยู่ และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องอีกหลายปี
"วิกฤตการณ์ในปัจจุบันยังคงไม่ยุติ และต่อให้เมื่อถึงเวลาสิ้นสุดลง มันก็จะยังคงส่งผลกระทบเป็นเวลาอีกหลายปี"
"เมฆหมอกทะมึนยังคงคุกคามเศรษฐกิจเหมือนเมื่อ 1 ปีก่อน โดยระบบธนาคารเผชิญแรงกดดันระลอกใหม่ หลังการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และเครดิต สวิสในเดือนที่แล้ว ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย และแม้เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับปี 2551 แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าวิกฤตการณ์จะสิ้นสุดลงเมื่อใด ขณะที่ตลาดการเงินตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินจะใช้นโยบายที่รัดกุมมากขึ้น" นายไดมอนระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น
ก่อนหน้านี้ นายไดมอนเป็นผู้นำในการเจรจาร่วมกับผู้บริหารของธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐเกี่ยวกับมาตรการสร้างเสถียรภาพต่อธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินในรูปเงินฝากจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1 ล้านล้านบาท ในการเสริมสภาพคล่องของทางธนาคารเพื่อสกัดวิกฤตธนาคารไม่ให้ลุกลามออกไปหลังการล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์