นักวิเคราะห์เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญภาวะ stagflation ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อพุ่งสูง
"ขณะนี้ความกังวลอยู่ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องล่าถอย ก่อนที่จะได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการทำสงครามกับเงินเฟ้อ ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้เราเจอภาวะเลวร้ายที่สุด นั่นคือ เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะ stagflation ซึ่งเศรษฐกิจมีการหดตัว แต่ราคากลับพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายแดนนี ฮูว์สัน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ AJ Bell กล่าว
ทั้งนี้ ตลาดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566 ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขตลาดแรงงานที่ซบเซา
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 46.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนก.พ. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 632,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2564 และต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่ง