นางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการค้าของจีนกับสหภาพยุโรป (EU) ขณะเดือนทางเยือนกรุงปักกิ่ง
นางฟ็อน แดร์ ไลเอินกล่าวว่า สหภาพยุโรปกังวลเรื่องการขาดดุลการค้ากับจีนที่เพิ่มขึ้น การบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัทต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเท่าเทียมในตลาดจีน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ว่า กรณีดังกล่าวทำให้บริษัทบางแห่งเรียกร้องที่จะออกจากตลาดจีน ซึ่งนางฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าวว่า "ดิฉันไม่คิดว่านี่จะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมนัก เราอยากแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ผ่านทางการเจรจา และลดความเสี่ยงผ่านการทูต"
จีนเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปและเป็นผู้ซื้อสินค้าจากสหภาพยุโรปรายใหญ่เป็นอันดับสามในปี 2565 เน้นย้ำถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนที่มีต่อยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปอยู่ในสภาพเปราะบางจากสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปกำลังตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการยึดมั่นความสัมพันธ์ทางการเมืองและวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกับสหรัฐด้วย และทุกอย่างยิ่งยุ่งยากขึ้นเมื่อรัฐบาลสหรัฐเพิ่มวาทกรรมต่อต้านจีน ยิ่งไปกว่านั้น การรุกรานยูเครนของรัสเซีย ทำให้ยุโรปต้องพึ่งพาสหรัฐในด้านพลังงานและความมั่นคงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม