ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 06.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 60 จุด หรือ +0.18% แตะที่ 33,719 จุด
ทางการสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธที่ 12 เม.ย. รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 21-22 มี.ค.ในวันดังกล่าว และจากนั้นจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย.
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
ทั้งนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานดังกล่าว ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 32% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
-- จีนเพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนมี.ค. ขณะที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกพยายามที่จะเพิ่มการถือครองทองคำ
ข้อมูลบนเว็บไซต์ของธนาคารกลางจีน (PBOC) เมื่อวันศุกร์ (7 เม.ย.) บ่งชี้ว่า PBOC เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำอีกราว 18 ตันในเดือนมี.ค. ส่งผลให้มีปริมาณทองคำรวมทั้งสิ้นในขณะนี้ราว 2,068 ตัน หลังจากเพิ่มขึ้นประมาณ 102 ตันในช่วง 4 เดือนก่อนหน้าเดือนมี.ค.
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ประเทศต่าง ๆ ได้เพิ่มปริมาณสำรองทองคำ ท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อที่ระดับสูง โดยความต้องการทองคำของธนาคารกลางนั้นเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 2 ในปี 2565 และผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในเดือนม.ค.ปีนี้ได้แก่ ตุรกี, จีน และคาซัคสถาน
-- ทั่วโลกจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน หลังจากจีนได้จำลองฉากการโจมตีเป้าหมายในไต้หวันในระหว่างการซ้อมรบทางทะเลใกล้กับไต้หวันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 เม.ย.) โดยจีนระบุว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการส่งคำเตือนไปยังไต้หวัน ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน ได้เดินทางเยือนสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ไต้หวันระบุว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 เม.ย.) มีเครื่องบินของจีนอย่างน้อย 70 ได้บินรอบ ๆ บริเวณไต้หวัน และมีเครื่องบินรบ 45 ลำที่บินข้ามเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไต้หวันและจีน
-- การแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกยังคงร้อนระอุ ล่าสุด ไป่ตู้ (Baidu) ซึ่งเป็นบริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของจีน ได้ยื่นฟ้องบรรดาผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องและบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ เกี่ยวกับการที่มีแอปพลิเคชันปลอมของเออร์นี่ (Ernie) ซึ่งเป็นแชตบอตเอไอของไป่ตู้ปรากฏอยู่ในแอปสโตร์ของแอปเปิ้ล
เออร์นี่ซึ่งเป็นแชตบอตเอไอของไป่ตู้ซึ่งเปิดตัวไปในเดือนที่ผ่านมานั้น ได้รับการยอมรับว่าเป็นแชตบอตเอไอที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงที่สุดกับแชตจีพีที (ChatGPT) จากบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ของสหรัฐ
ไป่ตู้เปิดเผยว่า บริษัทได้ฟ้องร้องบรรดาผู้พัฒนาที่อยู่เบื้องหลังการสร้างแอปฯ ปลอมของแชตบอตเออร์นี่ รวมไปถึงบริษัทแอปเปิ้ลที่ปล่อยให้มีแชตบอตเออร์นี่ปลอมอยู่ในแอปเปิ้ลสโตร์ โดยไป่ตู้ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อศาลประชาชนไห่เตี้ยนในกรุงปักกิ่ง
-- นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่สหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มความแข็งแกร่งของภาคธนาคาร หลังจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ได้สร้างความตื่นตระหนกในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน, เวลส์ฟาร์โก, ซิตี้กรุ๊ป, แบล็กร็อก, และพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิส กรุ๊ป จะรายงานผลประกอบการในวันศุกร์ที่ 14 เม.ย.นี้
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ระบุว่า ความเสี่ยงที่อันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารนั้น ยังคงอยู่ในกรอบจำกัด นอกเสียจากว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวยังคงยืดเยื้อ
-- ตลาดการเงินรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้ในวันอังคารนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.5% ในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าธนาคารกลางจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมกันประมาณ 0.50% ในไตรมาสแรกปี 2567