นายลูฮูต ปันด์ไจตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุนของอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (10 เม.ย.) ว่า อินโดนีเซียเตรียมเสนอทำข้อตกลงการค้าเสรีสำหรับสินแร่บางชนิดที่ได้จัดส่งให้กับสหรัฐ เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศได้รับประโยชน์จากเครดิตภาษีของสหรัฐ
สหรัฐได้ออกแนวทางปฏิบัติใหม่เกี่ยวกับเครดิตภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศภายใต้กฎหมายการปรับลดเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act) หรือ IRA ซึ่งกำหนดให้องค์ประกอบส่วนหนึ่งของแบตเตอรี่ต้องถูกผลิตหรือประกอบขึ้นในอเมริกาเหนือหรือประเทศพันธมิตรการค้าเสรี
ทั้งนี้ ปัจจุบันอินโดนีเซียยังไม่ได้มีข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐ แต่ผลิตภัณฑ์จากนิกเกิลเริ่มกลายมาเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินโดนีเซียได้พยายามใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนิกเกิลสำรองของประเทศ ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดในโลก ในการดึงดูดการลงทุนจากเหล่าผู้ผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงบริษัทจากสหรัฐเช่น เทสลาและฟอร์ด
นายปันด์ไจตัน ซึ่งเป็นหัวหอกในการผลักดันการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของกฎหมาย IRA ในการแถลงข่าวว่า อินโดนีเซียเตรียมจะยื่นข้อเสนอข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหรัฐ
"เราไม่มี FTA กับสหรัฐ แต่ตอนนี้ เรากำลังจะยื่นเสนอทำข้อตกลง FTA ในวงจำกัดกับพวกเขา" นายปันด์ไจตันกล่าว และเสริมว่า เขาจะร่วมหารือกับผู้บริหารฟอร์ดและเทสลาในประเด็นเหล่านี้ ในระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ นายเซปเตียน ฮาริโอ เซโต รัฐมนตรีช่วยฯของนายปันด์ไจตัน กล่าวว่า ข้อเสนอทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐและอินโดนีเซียมีแนวโน้มว่าจะคล้ายคลึงกับที่สหรัฐลงนามร่วมกับญี่ปุ่นในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินแร่ที่สำคัญ