กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วง 5 ปีข้างหน้าที่ระดับ 3% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะกลางที่ต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2533
ส่วนในระยะสั้น IMF คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 และ 2567 ที่ระดับ 2.8% และ 3% ตามลำดับ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.9% และ 3.1%
IMF ระบุว่าเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ, ผลกระทบจากการทรุดตัวในภาคการเงิน, การชะลอตัวของตลาดแรงงาน และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นอกจากนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 1.6% ในปีนี้ ขณะที่ยูโรโซนขยายตัว 0.8% แต่สหราชอาณาจักรหดตัว 0.3%
ส่วนเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะมีการเติบโต 5.2% ในปีนี้ ขณะที่อินเดียขยายตัว 5.9% และรัสเซียขยายตัว 0.7% หลังจากหดตัวกว่า 2% ในปี 2565
ขณะเดียวกัน IMF คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะชะลอตัวสู่ระดับ 7% ในปีนี้ หลังจากแตะระดับ 8.7% ในปีที่แล้ว ตามการปรับตัวลงของราคาพลังงาน