ทีมนักวิเคราะห์ของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) ซึ่งนำโดยนายคริส ฮาร์วีย์ระบุว่า การฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจจะส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ นายฮาร์วีย์คาดการณ์ว่า ดัชนี S&P500 จะทรุดตัวลง 10% ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีดิ่งลงสู่ระดับราว 3,700 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. 2565
ส่วนในช่วงสิ้นปี 2566 นั้น เวลส์ ฟาร์โกยังคงระดับการคาดการณ์ดัชนี S&P500 ไว้ที่ 4,200 จุด ซึ่งสูงกว่าระดับปิดของวันจันทร์ (10 เม.ย.) ประมาณ 2%
"ในมุมมองของเรานั้น ปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้ตลาดปรับตัวลงมาจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ, การดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุก, ปัญหาสภาพคล่องที่เป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร และผู้บริโภคที่ต้องพึ่งพาสินเชื่อในการใช้จ่าย" ทีมนักวิเคราะห์ของเวลส์ ฟาร์โกกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ แม้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารที่เกิดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย
ข้อมูลของเวลส์ ฟาร์โกระบุว่า ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นประมาณ 7% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และมุมมองที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เมื่อไม่นานมานี้ ตลาดเริ่มอ่อนแรงลง ในขณะที่นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งมีแนวโน้มที่อ่อนแอ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับระบบการเงินสหรัฐ