นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนิอาโพลิสกล่าวเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความเป็นไปได้ในการปรับลดการปล่อยเงินกู้หลังจากการล่มสลายของธนาคาร 2 แห่งเมื่อเดือนที่แล้วนั้น อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมา แต่การปล่อยให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงจะยิ่งส่งผลเลวร้ายต่อตลาดแรงงาน
"อาจเป็นไปได้ว่าการดำเนินนโยบายการเงินของเราและการคุมเข้มภาวะสินเชื่อเนื่องจากความตึงเครียดของภาคการธนาคารนั้น นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยอีกด้วย" นายแคชแครีกล่าวที่มหาวิทยาลัยรัฐมอนแทนาในการตอบคำถามนักศึกษาเกี่ยวกับโอกาสในการทำงาน
นายแคชแครีกล่าวอีกว่า "เราจำเป็นต้องทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง หากเราล้มเหลวแล้วล่ะก็ โอกาสในการหางานทำของพวกคุณก็จะเป็นเรื่องที่ยากมาก"
ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ Inverted Yield Curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอยู่ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยนายแคชแครีกล่าวว่า เขาเล็งเห็นว่าราคาในตลาดพันธบัตรสหรัฐสะท้อนการคาดการณ์ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว และจะทำให้เฟดสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้