ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินจำนวน 1.7 แสนล้านหยวน หรือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคารในวันนี้ โดยดำเนินการผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ย MLF ติดต่อกันเดือนที่ 8 สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การอัดฉีดเงินครั้งล่าสุดในวันนี้ ส่งผลให้ยอดรวมการอัดฉีดเงินสุทธิอยู่ในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 2 หมื่นล้านหยวน ซึ่งถือเป็นจำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 และสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางกำลังประเมินผลกระทบของการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเมื่อไม่นานมานี้ โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกของปีนี้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบธนาคาร และลดต้นทุนในการระดมทุนของภาคธุรกิจ รวมทั้งกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนปรับลด RRR ในอัตรา 0.25% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. ยกเว้นสถาบันการเงินที่มีการกันสำรองอยู่ที่ระดับ 5% อยู่แล้ว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนระบุในการประชุม G20 ว่า เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัว และเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ระดับ 5% ในปีนี้อาจจะบรรลุผล ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น
การคงอัตราดอกเบี้ย MLF ในวันนี้ มีขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางจีนจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปี ในวันพฤหัสบดีที่ 20 เม.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30%