สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยในวันนี้ (19 เม.ย.) ว่า ยอดขายรถยนต์ในยุโรปพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564 เนื่องจากอุปทานของส่วนประกอบหลัก ๆ รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์นั้น ยังคงปรับตัวดีขึ้น
ACEA ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 26% แตะ 1.42 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยผู้ผลิตรถยนต์ได้รับประโยชน์จากคำสั่งซื้อที่สะสมในช่วงวิกฤตอุปทานที่เลวร้ายและจากยอดขายที่อ่อนแอในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนกำลังคลี่คลายลง ผู้ผลิตรถยนต์กำลังต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลต่อยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ใหม่ในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นมากที่สุดในสเปนและอิตาลี โดยเพิ่มขึ้น 66% และ 41% ตามลำดับ ส่วนในเยอรมนีซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 17% ขณะที่ยอดขายในเดือนมี.ค.ของปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักและกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อจากราคาของวัตถุดิบ
ทั้งนี้ ยอดขายของโฟล์คสวาเกน เอจี และเรโนลต์ เอสเอ เพิ่มขึ้นนำหน้าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป โดยเพิ่มขึ้น 35% และ 27% ตามลำดับ ส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พุ่งขึ้น 43% ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 15.5%