ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คงระดับการประเมินภาวะเศรษฐกิจใน 7 ภูมิภาค จาก 9 ภูมิภาคของญี่ปุ่น โดยระบุว่าการบริโภคยังคงฟื้นตัว แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาสของ BOJ หรือ Sakura Report ได้ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจในภูมิภาคโตไกซึ่งเป็นฐานการผลิตของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ หลังจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานเริ่มผ่อนคลายลง ขณะเดียวกันได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจในภูมิภาคโทโฮคุ
ภูมิภาคคันโต-โคชินเอ็ตสึ ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโตเกียว และภูมิภาคคันไซรวมถึงโอซาก้า เป็น 2 ใน 7 ภูมิภาคที่ BOJ ยังคงระดับการประเมินเอาไว้เท่าเดิม
รายงาน Sakura Report ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น "ฟื้นตัวขึ้น" หรือ "ปรับดีขึ้นในระดับปานกลาง" โดยได้แรงหนุนจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เริ่มลดน้อยลง และสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง
ทั้งนี้ รายงาน Sakura Report เป็นหนึ่งในข้อมูลที่ BOJ จะใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมวันที่ 27 เม.ย.นี้
ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control program) นอกจากนี้ BOJ ยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อปกป้องเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเอาไว้ที่ระดับ 0.5%