นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส เปิดเผยในวันนี้ (21 เม.ย.) ว่า การตั้งเพดานค่าไฟฟ้าของฝรั่งเศสจะคงอยู่อัตราเดิมในปี 2566 และมีแนวโน้มจะยุติลงในช่วงระยะเวลา 2 ปี พร้อมเสริมว่าราคาพลังงานยังไม่ "กลับสู่ระดับปกติ"
นายเลอ แมร์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ LCI ว่า "ค่าไฟฟ้ายังไม่กลับสู่ระดับปกติ ดังนั้น เราจะต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยสำหรับการยกเลิกการตั้งเพดานค่าไฟฟ้า ผมมองว่าต้องใช้เวลาอีก 2 ปี จนถึงต้นปี 2568"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ค่าไฟฟ้าในยุโรปพุ่งสูงขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน และการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฝรั่งเศสที่แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การไฟฟ้าฝรั่งเศส (Electricite de France) หรือ EDF กำลังเร่งแก้ไขเครื่องปฏิกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากการกัดกร่อน
การคงเพดานราคาไฟฟ้าไว้เกินปีนี้ จะทำให้สถานการณ์การเงินของ EDF ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจาก EDF กำลังจ้างและฝึกอบรมพนักงานให้เพียงพอเพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งในทศวรรษหน้า
อย่างไรก็ตาม นายเลอ แมร์ ระบุว่า รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะยุติเพดานราคาสำหรับก๊าซธรรมชาติในครัวเรือน ในช่วงสิ้นปี 2566 เนื่องจากราคาก๊าซปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากผลพวงของการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย
รัฐบาลของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ให้ความสำคัญกับการปกป้องพลเมืองจากค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูงทั่วกลุ่มประเทศยูโรโซน ขณะที่ประชาชนฝรั่งเศสไม่พอใจต่อกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญซึ่งขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี ขยับเป็น 64 ปี
ทั้งนี้ นอกจากการจำกัดเพดานราคา 15% สำหรับภาษีพลังงานแล้ว รัฐบาลยังได้กดดันให้ผู้ค้าปลีกรับประกันราคาอาหารในระดับที่ประชาชนสามารถจับจ่ายได้