World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 25, 2023 08:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจรายเดือนในวันนี้บ่งชี้ว่า ญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมินการนำเข้าอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินเยนเป็นเลข 2 หลักจากปีที่แล้วทำให้ราคาสินค้านำเข้าเพิ่มสูงขึ้น

-- กลุ่มผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเปิดเผยว่า สหภาพผู้ขนส่งของอาร์เจนตินายุติการประท้วงที่กำลังส่งผลกระทบต่อการขนส่งธัญพืชของอาร์เจนตินาแล้ว

บรรดาผู้ขนส่งได้เริ่มการประท้วงเมื่อเช้าวันจันทร์ (24 เม.ย.) ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการขนส่งที่ศูนย์ท่าเรือเกษตรโรซาริโอ และทำให้บรรดาผู้ส่งออกต้องพึ่งพาคลังสำรองสินค้าเกษตรที่ท่าเรือ ซึ่งมีปริมาณสินค้าเกษตรลดน้อยลง

-- คอยน์เบส โกลบอล อิงค์ บริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีได้เรียกร้องเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.) ให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐทำการกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่คอยน์เบสมีความขัดแย้งกับ SEC และต้องการแนวทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับการดำเนินงาน โดยคอยน์เบสต้องการร่วมงานกับ SEC เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน

-- กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ยืนยันว่า จีนเคารพต่อสถานะของประเทศในเครืออดีตสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศที่มีอธิปไตย หลังจากที่สหภาพยุโรป (EU) แสดงความไม่พอใจต่อการแสดงความเห็นของเอกอัครราชทูตจีนประจำฝรั่งเศสก่อนหน้านี้

นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนจัดการแถลงข่าวในวันจันทร์ (24 เม.ย.) โดยระบุว่า แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศจีนถือเป็นการแสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลจีน

การแถลงข่าวดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดกับ EU หลังจากที่นายหลู ชาเหย่ เอกอัครราชทูตจีนประจำฝรั่งเศส ตั้งคำถามเกี่ยวกับอธิปไตยของกลุ่มประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต

-- บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ประกาศปลดพนักงานรอบที่ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยเป็นพนักงานของ Disney Entertainment รวมทั้ง Disney Park และ ESPN ดิสนีย์ได้ปลดพนักงานรอบแรกในวันที่ 27 มี.ค. โดยพนักงานทั้ง 50 คนในฝ่ายเมตาเวิร์สได้ถูกปลดออก รวมทั้งพนักงานบางส่วนในกรุงปักกิ่ง เมื่อเสร็จสิ้นการปลดพนักงานทั้ง 2 รอบ จะทำให้มีการเลิกจ้างพนักงาน 4,000 คน

-- เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 2-3 พ.ค.

ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC

-- นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ชะลอตัวลง แต่ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด

-- การเมืองสหรัฐเริ่มมีความคึกคักมากขึ้น ขณะที่เข้าใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567

แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ตัดสินใจที่จะลงชิงชัยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า โดยจะมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการประกาศตัวอย่างเป็นทางการของปธน.ไบเดนในวันอังคารนี้ (25 เม.ย.)

ขณะนี้ ปธน.ไบเดนวัย 80 ปี ถือเป็นผู้นำสหรัฐที่มีอายุมากที่สุดขณะดำรงตำแหน่ง และหากเขาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งปีหน้า และได้ครองทำเนียบขาวอีก 4 ปี ก็จะทำให้เขามีอายุ 86 ปีขณะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2

-- บิตคอยน์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 27,000 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (24 เม.ย.) และอยู่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐและยุโรป

นอกจากนี้ ตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

-- สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยรายงานของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดระบุว่า บิตคอยน์จะพุ่งแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ หรือราว 3,400,000 บาทภายในสิ้นปี 2567

"แม้ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ แต่เรามองว่าหนทางที่บิตคอยน์จะไปสู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ได้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ" นายเจฟ เคนดริค หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัลของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ระบุในรายงาน

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference Board และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ