นายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีศรีลังกากล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาวันนี้ (26 เม.ย.) ว่า ศรีลังกากำลังพยายามลดหนี้โดยรวมลง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ หลังจากที่เขาได้ขอการสนับสนุนจากบรรดาพรรคฝ่ายค้านสำหรับโครงการเงินกู้มูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
นอกจากนี้ ปธน.รานิล ยังกล่าวอีกว่า ศรีลังกาจะหารือเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้กับอินเดียและกลุ่มปารีสคลับ (Paris Club) ในเวทีเดียวกัน และหารือกับจีนแยกต่างหากอีกครั้ง
อนึ่ง ปารีสคลับเป็นกลุ่มประเทศร่ำรวย อาทิ สหรัฐ, เยอรมนี, ญี่ปุ่น ฯลฯ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่รัฐบาลประเทศต่าง ๆ
ทั้งนี้ ศรีลังกาประสบกับวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่ประกาศเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2491 โดยศรีลังกาเพิ่งได้รับเงินกู้จาก IMF มาเมื่อเดือนที่แล้ว
ข้อมูลจากทางการระบุว่า ศรีลังกาติดค้างเจ้าหนี้ทวิภาคีอยู่ 7.1 พันล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนดังกล่าว ศรีลังกาติดค้างจีนอยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์ ติดค้างกลุ่มปารีสคลับ 2.4 พันล้านดอลลาร์ และติดค้างอินเดียอยู่ 1.6 พันล้านดอลลาร์
ปธน.รานิลระบุว่า ศรีลังกาจำเป็นต้องเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ถึงระดับ 6% ขึ้นไปภายในปี 2571 หรือ 2572 เพื่อใช้หนี้และพัฒนาประเทศต่อไป