สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนไตรมาสแรกของปี 2566 ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของประเทศเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัว แม้จะมีการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์แล้วก็ตาม
รายงานระบุว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 21.4% ในไตรมาส 1 (ช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.) ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 12% และสวนทางกับไตรมาส 1 ปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัว 8.5%
ส่วนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 กำไรภาคอุตสาหกรรมหดตัวเกือบ 23% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 256 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรง
ผลกำไรที่ลดลงในภาคยานยนต์เป็นปัจจัยฉุดรั้งกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนในปีนี้ ท่ามกลางสงครามราคาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ทรุดตัวลงในปีนี้
ขณะเดียวกัน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ของจีนปรับตัวขึ้น 3.9% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณว่าจะเพิ่มขึ้น 4% และพลาดเป้าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ความซบเซาในภาคอุตสาหกรรมยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ไม่สม่ำเสมอในปีนี้ โดยแม้ว่าอุปสงค์ด้านการบริการและการเดินทางฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แต่ภาคการผลิตกลับฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า