ธนาคารกลางศรีลังกาเปิดเผยรายงานประจำปีเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) โดยคาดว่า เศรษฐกิจศรีลังกาจะหดตัวลง 2% ในปี 2566 ในขณะที่เผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เศรษฐกิจศรีลังกาจะขยายตัว 3.3% ในปี 2567
เศรษฐกิจของศรีลังกาหดตัวลง 7.8% ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอย่างรุนแรง เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และการอ่อนค่าลงอย่างหนักของสกุลเงิน ในขณะที่ศรีลังกาต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินซึ่งเกิดจากการที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ธนาคารกลางศรีลังกาคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2566 ในแง่บวกมากกว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงอีก 3.1% และ IMF ได้ตัดสินใจมอบความช่วยเหลือมูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ศรีลังกาเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนธนาคารโลกประมาณการว่าเศรษฐกิจของศรีลังกาจะหดตัวลง 4.3% ในปีนี้
นายอูดีซาน โจนาส หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของซีเอแอล กรุ๊ป (CAL Group) กล่าวว่า "เศรษฐกิจของศรีลังกาค่อย ๆ มีเสถียรภาพมากขึ้นนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 สถานการณ์ขาดแคลนเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงค่อย ๆ ดีขึ้นทีละน้อย ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวอาจดีกว่าที่คาดไว้ และความต้องการของผู้บริโภคก็กระเตื้องขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อพิจารณาจากฐานเปรียบเทียบที่ระดับต่ำ ก็มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจศรีลังกาจะปรับตัวดีขึ้น"
ขณะนี้ศรีลังกากำลังอยู่ระหว่างการเจรจาชำระหนี้กับผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้ทวิภาคี ซึ่งศรีลังกาคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ได้ทันการทบทวนของ IMF ครั้งแรกในเดือนก.ย.