มอร์แกน สแตนลีย์ วางแผนที่จะปรับลดพนักงานประมาณ 3,000 ตำแหน่งในไตรมาสที่ 2/2566 ซึ่งนับเป็นการปรับลดพนักงานรอบ 2 ในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การทำข้อตกลงทางธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากกำลังกระตุ้นให้ธนาคารพิจารณาปรับลดจำนวนพนักงาน
การปลดพนักงานระลอกล่าสุดมีขึ้นหลังจากรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจลดลง ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมลดลงเกือบ 2% แตะ 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ชารอน เยชยา หัวหน้าฝ่ายการเงินของมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า การจัดการค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เมื่อคำนึงถึงความไม่แน่นอนของตลาดในวงกว้างและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน กลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนของวอลล์สตรีทได้รับผลกระทบจากการทำข้อตกลงทางธุรกิจที่ตกต่ำลง เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดที่ผันผวนและอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา นายเจมส์ กอร์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอร์แกน สแตนลีย์ได้กล่าวว่า ธนาคารจะปรับลดตำแหน่งงานทั่วโลกลงในระดับปานกลาง โดยไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่นอน
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2566 มอร์แกน สแตนลีย์มีพนักงานมากกว่า 82,000 คน และการปลดพนักงานระลอกนี้จะส่งผลกระทบต่อพนักงานเกือบ 4%