บรรษัทรับประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) มีแผนที่จะยกเครื่องประกันเงินฝากขนานใหญ่ หลังเหตุการณ์ธนาคารล้มเมื่อไม่นานมานี้ได้ทำให้รัฐบาลสูญเงินบางส่วนที่ใช้ในการปกป้องลูกค้าของกลุ่มธนาคารที่ประสบปัญหา
ทั้งนี้ FDIC ได้เปิดเผยทางเลือก 3 ข้อสำหรับกองทุนประกันเงินฝากในวันจันทร์ (1 พ.ค.) โดยปัจจุบันกองทุนประกันเงินฝากนั้นคุ้มครองบัญชีเงินฝากส่วนใหญ่สูงสุดที่ 250,000 ดอลลาร์ โดย FDIC ได้หยิบยกผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการมุ่งความสนใจไปยังผู้ฝากเงินแบบไม่มีประกันในระบบธนาคารขึ้นมาเป็นเหตุผลในการยกเครื่องประกันเงินฝาก
FDIC ระบุในรายงานว่า การเปลี่ยนมาให้การ "คุ้มครองแบบกำหนดเป้าหมาย" ซึ่งจะทำให้บัญชีธนาคารของธุรกิจได้รับการคุ้มครองเพิ่มมากขึ้นจากเพดานปัจจุบัน จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเสถียรภาพทางการเงิน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะต้องได้รับการเห็นชอบจากสภาคองเกรสเสียก่อน ส่วนทางเลือกที่เหลือได้แก่ การคงการคุ้มครองเอาไว้เช่นเดิม หรือเปลี่ยนมาคุ้มครองการฝากเงินทั้งหมด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้ FDIC ยังไม่ได้ยืนยันที่จะดำเนินการใด แต่ข้อเสนอดังกล่าวจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญที่สุด เพื่อยับยั้งวิกฤตในภาคธนาคาร โดยการตัดสินใจของ FDIC ที่จะคุ้มครองเงินฝากทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเงินฝากที่สูงกว่า 250,000 ดอลลาร์ สำหรับลูกค้าของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ที่ล้มในเดือนมี.ค.นั้น ได้จุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดว่าควรจะเปลี่ยนแปลงระบบดังกล่าวไปในทิศทางใด