ชิเกะยูกิ โกโตะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (2 พ.ค.) ว่า ปัญหาในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรปเป็นผลมาจากความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและระบบการเงินของญี่ปุ่นในตอนนี้
นายโกโตะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ หลังหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐเข้าควบคุมเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) และขายกิจการของ FRB ให้กับเจพีมอร์แกน เชส เพื่อจัดการวิกฤตการล้มละลายของธนาคารสหรัฐครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินปี 2551 และยุติความปั่นป่วนในภาคธนาคารที่ยืดเยื้อมายาวนาน
นายโกโตะกล่าวว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาติตะวันตกเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย สถาบันการเงินและหน่วยงานราชการจำเป็นจะต้องรับมือกับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องอย่างจริงจัง"
นายโกโตะระบุเสริมว่า "ผมไม่เห็นว่าภาคการเงินของสหรัฐนั้นประสบปัญหาใหญ่แต่อย่างใด"
เมื่อถูกถามว่าวิกฤตธนาคารของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ชะลอการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติหรือไม่ นายโกโตะระบุว่า เขาคาดหวังว่าธนาคารกลางจะกำหนดนโยบายได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสม โดยที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม
นอกจากนี้ นายโกโตะกล่าวว่า "BOJ ในฐานะธนาคารกลางควรจัดการกับการดำเนินนโยบายการเงิน แต่ผมไม่เห็นว่าสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคการเงินของญี่ปุ่นโดยรวมแต่อย่างใด"
ทั้งนี้ นายโกโตะระบุเสริมว่า "ผมคาดหวังให้ BOJ กำหนดนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่น ซึ่งหมายความว่า BOJ ควรดำเนินการอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงเศรษฐกิจและตลาดการเงิน"