สำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 พ.ค. จะเป็นพิธีที่วิจิตรงดงามที่สุดในยุคหนึ่งของอังกฤษ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของอังกฤษ
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาจะทรงเข้าพิธีบรมราชาภิเษก ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน โดยพิธีดังกล่าวเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับ 1,000 ปี และทหารหลายพันนายจะเข้าร่วมขบวนแห่ระยะทางหนึ่งไมล์ผ่านกลางกรุงลอนดอน
"นี่คือห้วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติเรา" เอิร์ล มาร์แชล เอ็ดเวิร์ด ฟิตซ์อลัน เฮาเวิร์ด ดยุกแห่งนอร์ฟอล์กระบุ
ทหารประมาณ 7,000 นายจะเข้าร่วมภารกิจในพิธีนี้ โดยกว่า 4,000 นายมีกำหนดร่วมเดินขบวนจากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์สู่พระราชวังบักกิงแฮม จากนั้นจะมีการยิงสลุตหลวงในสวนของพระราชวังบัคกิงแฮม
รายงานระบุว่า จะมีแขกเหรื่อเพียง 2,300 รายเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ แตกต่างจาก 8,000 รายในพิธีที่จัดขึ้นเมื่อปี 2496 โดยแม้ยังมีประมุขรัฐกว่า 100 รัฐเข้าร่วม แต่พิธีจะจัดสั้นกว่าเดิม
ส่วนนักวิจารณ์ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นในช่วงที่ประชาชนกำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพ แต่โฆษกของสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมระบุว่า พิธีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้จะทำให้เงินสะพัดกว่า 1 พันล้านปอนด์ (1.25 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอังกฤษที่กำลังเผชิญกับภาวะยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทแพนทีออน แม็คโครอีโคโนมิกส์ (Pantheon Macroeconomics) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษจะลดลงประมาณ 0.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยถูกกดดันจากกรณีที่รัฐบาลประกาศวันหยุดพิเศษ เนื่องในพิธีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.