นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียในไตรมาส 1/2566 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี เมื่อเทียบเป็นรายปี และคาดว่าหดตัวเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออก และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ
นักวิเคราะห์ 23 คนในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 1/2566 ของอินโดนีเซียจะขยายตัว 4.95% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหากเทียบเป็นรายไตรมาส คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 1.0% ซึ่งจะเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2566 ในวันที่ 5 พ.ค.นี้
นายแกเร็ธ เลเธอร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านเศรษฐกิจเอเชียของบริษัทแคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าวว่า "ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจอินโดนีเซียชะลอตัวลง และคาดว่าจะชะลอตัวลงต่อเนื่องในไตรมาส 1 ปีนี้ เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ส่งผลให้รายได้จากการส่งออกของอินโดนีเซียลดลงอย่างมาก"
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียในปี 2566 จะขยายตัวโดยเฉลี่ย 4.9% และ 5.0% ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 5.0% ในปี 2566 และขยายตัว 5.1% ในปี 2567