กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในวันนี้ (3 พ.ค.) ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และเอเชียกลางจะชะลอตัวลงในปี 2566 ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้าง
ทั้งนี้ IMF ระบุว่า GDP ที่แท้จริงในภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียกลางมีแนวโน้มที่จะเติบโตชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.9% ในปี 2566 หลังขยายตัว 5.3% ในปี 2565 ก่อนจะกระเตื้องขึ้นสู่ขยายตัว 3.5% ในปี 2567
ขณะที่ เศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะเติบโตชะลอตัวลงสู่ 3.1% ในปี 2566 หลังขยายตัว 5.3% ในปี 2565 ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในภูมิภาคคอเคซัสและเอเชียกลางมีแนวโน้มเติบโตลดลงสู่ 4.2% ในปีนี้ จาก 4.8% ในปีที่แล้ว
"ความไม่แน่นอนอยู่ในระดับสูงและมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับภูมิภาคดังกล่าว" นายจิฮัด อาเซาร์ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของ IMF ระบุ
"ปัจจัยเสี่ยงบางประการเป็นความเสี่ยงระดับโลก โดยความเสี่ยงบางประการเป็นผลมาจากกรณีที่บางประเทศมีหนี้สินระดับสูง"
รายงานระบุว่า นโยบายการเงินและการคลังที่ตึงตัวทั่วภูมิภาค "ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อกระตุ้นศักยภาพการเติบโตและปรับปรุงความคล่องตัว"
IMF ระบุว่า เศรษฐกิจอียิปต์มีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวสู่ 3.7% ในปี 2566 จาก 6.6% ในปี 2565 ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้อียิปต์ต้องขอเงินกู้ระยะ 46 เดือน มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์จาก IMF