เว็บไซต์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 พ.ค.) ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค พุ่งขึ้น 4.7% นำโดยหุ้นแพคเวสต์ แบงคอร์ป ทะยานขึ้น 81.7% และหุ้นเวสเทิร์น อัลไลแอนซ์ แบงคอร์ป พุ่งขึ้น 49.2%
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจอยู่ที่ 3.6% และทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2512
-- นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าในการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยล่าสุดนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้สัมภาษณ์ในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเผชิญกับการถดถอยที่รุนแรง หากสภาคองเกรสสหรัฐไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้นางเยลเลนได้ส่งจดหมายถึงนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อเตือนว่า สหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้หากสภาคองเกรสไม่เพิ่มเพดานหนี้
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ มีกำหนดประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำของสภาคองเกรสในวันอังคารนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้โดยไม่มีเงื่อนไข ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้อาจจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และคาดว่าปธน.ไบเดนจะใช้สิทธิ์วีโต (veto) เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีการพ่วงข้อเสนอให้รัฐบาลสหรัฐลดการใช้จ่ายในช่วง 10 ปีข้างหน้า
-- นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กจะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์กในวันอังคารนี้ ขณะที่นายฟิลลิป เจฟเฟอร์สัน ผู้ว่าการเฟด และนายเจมส์ บูลลาร์ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์จะกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาว่าด้วยเรื่องนโยบายการเงินซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในวันศุกร์นี้
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมในวันนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด
ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control program) รวมทั้งคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0%
อย่างไรก็ด ในการประชุมวันดังกล่าว คณะกรรมการ BOJ ได้ปรับสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (Forward Guidance) เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายในอนาคต และได้ตัดสินใจที่จะใช้การทบทวนนโยบายการเงินในภาพรวมวงกว้าง (Broad-perspective Review) โดย BOJ ได้ยกเลิกการระบุถึงความจำเป็นการปกป้องเศรษฐกิจจากความเสี่ยงของโรคโควิด-19 และยกเลิกการระบุว่าจะรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันหรือต่ำกว่าระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ BOJ จะทำการประเมินผลกระทบที่เกิดจากการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินในช่วงที่ผ่านมา
-- นักลงทุนรอดูการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพุธนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และจากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.ในวันพฤหัสบดี