รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (8 พ.ค.) ว่า จะจัดสรรเงิน 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 9.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดช่วง 4 ปีข้างหน้า ในงบประมาณของรัฐบาลกลางเพื่อบรรเทาค่าครองชีพสำหรับครัวเรือนและธุรกิจ โดยให้คำมั่นว่าแผนการนี้จะไม่เพิ่มอัตราเงินเฟ้อ
แผนการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดแรงกดดันด้านราคาและอัตราเงินเฟ้อโดยตรง โดยอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียชะลอตัวลงไตรมาสแรก แต่ยังคงใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ที่ ระดับ7.0%
"หัวใจสำคัญของงบประมาณฉบับนี้คือการบรรเทาค่าครองชีพโดยไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ประชาชนอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งเราได้สำรวจและออกแบบงบประมาณนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อลดและไม่เพิ่มแรงกดดันจากค่าครองชีพ" นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย กล่าวก่อนแถลงร่างงบประมาณในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.)
รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมเปิดตัวงบประมาณช่วยเหลือครอบครัวผู้มีรายได้ต่ำ ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้รับเงินบำนาญ รวมทั้งหมดกว่า 5 ล้านคน ที่เดือดร้อนจากค่าไฟฟ้าที่สูง
ทั้งนี้ นายชาลเมอร์สได้เน้นย้ำหลายต่อหลายครั้งว่างบประมาณนี้จะมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยไม่เพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.85% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 มี.ค. พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้