ปธน.วิโดโดแสดงความเชื่อมั่นว่าระบบ QRIS จะเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้งภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้มีการผลิตสินค้าและบริการซึ่งมีคุณภาพที่แข่งขันได้ในตลาดโลก
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียเป็นผู้พัฒนาระบบ QRIS ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจของอินโดนีเซียสามารถชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านระบบดังกล่าวไปยังประเทศอื่นในอาเซียน ขณะที่สมาชิกอาเซียนสามารถชำระเงินผ่านระบบดังกล่าวมายังอินโดนีเซียเช่นกัน
นอกจากมาเลเซียแล้ว ประเทศไทยก็มีระบบเชื่อมโยงกับ QRIS ของอินโดนีเซีย โดยผ่านทางระบบ Thai QR
ทางด้านดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า "ความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ASEAN Payment Connectivity แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาการชำระเงินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมมากขึ้น ภายใต้การเชื่อมโยงนี้ ทั้งผู้บริโภคและผู้ค้าชาวไทยและชาวอินโดนีเซียสามารถใช้บริการการชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างปลอดภัย เรียลไทม์ และมีต้นทุนในการทำธุรกรรมต่ำ ในอนาคตอันใกล้ การเชื่อมโยงข้ามแดนนี้จะได้รับการยกระดับเพื่อเชื่อมโยงระบบการชำระเงิน BI-Fast ของอินโดนีเซียกับพร้อมเพย์ของไทยซึ่งมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 70 ล้านบัญชี ซึ่งจะให้บริการโอนเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์แก่แรงงานข้ามชาติ ชาวต่างชาติ และ SMEs ด้วยการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาค โดยการเชื่อมโยงการชำระเงินในอาเซียนจะมีความครอบคลุมมากขึ้นในระยะต่อไป"